คลายล็อกดาวน์ ห้าง ร้าน ค้าปลีก ประกาศปรับเวลาเปิด-ปิด

15 ต.ค. 2564 | 09:58 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ต.ค. 2564 | 17:06 น.
6.0 k

ห้าง ร้าน ค้าปลีก เด้งรับศบค. คลายล็อกดาวน์ ลดเคอร์ฟิว ปรับเวลาเปิด ปิดบริการ พร้อมปฏิบัติตามข้อกำหนด ทั้งพื้นที่สีแดงเข้ม สีแดง และสีส้ม

หลังมติที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ชุดใหญ่ วันที่ 14 ตุลาคม 2564 เห็นชอบให้ปรับระดับสีพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เหลือจำนวน 23 จังหวัด   พื้นที่ควบคุมสูงสุด (พื้นที่สีแดง) จำนวน 30 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จำนวน 24 จังหวัด โดยที่พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวมทั้งสิ้น 23 จังหวัด

 

ประกอบด้วย 1. กรุงเทพมหานคร 2. นนทบุรี 3. ปทุมธานี 4.สมุทรปราการ   5. สมุทรสงคราม 6. สมุทรสาคร 7. ชลบุรี 8. ระยอง 9. จันทบุรี 10. ฉะเชิงเทรา 11. พระนครศรีอยุธยา 12. นครปฐม 13. ราชบุรี 14. กาญจนบุรี 15. นครนายก 16. สระบุรี 17. ปราจีนบุรี 18. ตาก 19. นครศรีธรรมราช 20. สงขลา 21. ยะลา 22. ปัตตานี 23. นราธิวาส

 

รวมไปถึงพิจารณาเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิว จากเวลา 22.00 น. – 04.00 น. เป็น 23.00 น. – 03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2564

 

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และนายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ทั้งสองสมาคม ประกาศพร้อมปฏิบัติตามมาตรการการเฝ้าระวังการระบาดของโควิด เพื่อรับกับนโยบายเปิดประเทศที่รัฐบาลประกาศล่าสุด ที่คลายล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว โดยจะยังเข้มงวดมาตรการเข้มข้นในการคัดกรองพนักงาน

 

ผู้เกี่ยวข้องและผู้บริโภคเข้าศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีก ตามปกติที่ดำเนินการ นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศ ดังนี้

 

1. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ ในศูนย์การค้าเปิดให้บริการจนถึง 22.00 น.

 

2. ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์ท และแคชแอนด์แครี่ ที่ตั้งนอกศูนย์การค้า เปิดตามปกติและปิดให้บริการ 22.00 น.

 

3. ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสด เปิดบริการได้ 04.00 น. ถึง 22.00 น.

ญนน์ โภคทรัพย์

4. ร้านอาหารในศูนย์การค้าสามารถนั่งบริโภคในร้านได้ โดยร้านที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศสามารถนั่งได้ 75% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด และร้านที่ติดเครื่องปรับอากาศ สามารถนั่งได้ 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด และปิดให้บริการ 22.00 น.

 

5. สามารถเล่นดนตรีได้ตามแนวทางที่ราชการกำหนด และยังงดจำหน่ายงดดื่มสุราในร้าน

 

6. สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวด สปา) ร้านทำเล็บ ร้านสัก เปิดดำเนินการในศูนย์การค้าได้ แต่ต้องนัดหมายล่วงหน้า และให้บริการไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อคน และขอความร่วมมือลูกค้าที่เข้ารับบริการปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting อย่างเคร่งครัด

 

7. ธุรกิจโรงภาพยนตร์หรือฉายภาพยนตร์ เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 22.00 น. และต้องเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร หรือลดจำนวนผู้เข้ารับบริการเหลือประมาณ 50% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รวมทั้งไม่อนุญาตให้รับประทานอาหารภายในโรงภาพยนตร์

 

8. ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม สวนสนุก สวนน้ำ ยังไม่เปิดให้บริการ

 

9. ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการในศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า สามารถจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนได้ไม่เกิน 50 คน กรณีเกิน 50 คน แต่ไม่เกิน 500 คน ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด/กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ต้องเว้นระยะห่างบุคคลอย่างน้อย      1 เมตร ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และต้องปฏิบัติตามที่คณะกรรมการควบคุมโรคแนะนำอย่างเคร่งครัด

 

10. หากมีประกาศของจังหวัดอื่นใด นอกเหนือจากนี้ ให้ปฏิบัติตามประกาศของจังหวัดนั้นๆ

 

“อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 สมาคมฯ มีความเห็นว่าการบรรลุเป้าหมายนโยบายเปิดประเทศ ต้องอาศัยความร่วมแรงร่วมใจจากทุกภาคส่วนในการจับมือวิ่งไปถึงเส้นชัยที่อยู่ไม่ไกลร่วมกัน นอกจากนี้ภาครัฐ ต้องเร่งฟื้นฟูศรษฐกิจอย่างจริงจังและตรงจุด สะท้อนผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ อาทิ มาตรการกระตุ้น การใช้จ่ายเพิ่มเติมในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปีซึ่งเป็นไฮซีซั่น

 

เช่น การนำ “มาตรการช้อปดีมีคืน” กลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ กระตุ้นมู้ดการจับจ่ายให้กลับมาคึกคัก โดยสมาคมฯ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อก้าวผ่านจากการเยียวยาสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ควบคู่กับมาตรการควบคุมโรคที่เหมาะสม ด้วยหลัก Covid Free Setting และ Universal Prevention เพื่อให้ธุรกิจกลับมาเติบโตเข้มแข็ง”