"สมุยพลัสแซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยว 2 เดือนสร้างรายได้กว่า 38 ล้าน

06 ต.ค. 2564 | 19:20 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ต.ค. 2564 | 03:00 น.

รมช.สาธิต เผย “สมุยพลัสแซนด์บอกซ์” รับนักท่องเที่ยว 2 เดือนสร้างรายได้กว่า 38 ล้าน เดินหน้าสร้างความมั่นใจพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเลด้วย 4 มาตรการด้านสาธารณสุข พร้อมเร่งฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 สร้างความปลอดภัยในพื้นที่

วันนี้ (6 ตุลาคม 2564) ที่ จ.สุราษฎร์ธานี  ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางสุพัชรี ธรรมเพชร ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 11 และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการ “สมุยพลัสแซนด์บ็อกซ์”(Samui Plus Sandbox) พร้อมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์สนับสนุนการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 ให้แก่โรงพยาบาลเกาะพะงันและโรงพยาบาลเกาะสมุย

\"สมุยพลัสแซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยว 2 เดือนสร้างรายได้กว่า 38 ล้าน

ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานีเป็นพื้นที่นำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวทางทะเลอย่างปลอดภัย เพื่อขับเคลื่อนและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศนักท่องเที่ยวที่เข้ามาทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ครบโดส ไม่ต้องกักตัว แต่ต้องได้รับการคัดกรองต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจทั้งกับนักท่องเที่ยวด้วยกันและประชาชนในพื้นที่ เป็นการต่อยอดจากโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์

การเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ได้ดำเนินการภายใต้ 4 มาตรการด้านสาธารณสุข คือ 

 

  1. การฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ขณะนี้มีความครอบคลุมประชากรในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะมากกว่า 70% และกำชับให้เร่งฉีดในกลุ่ม 608 เพื่อลดป่วยหนักลดการเสียชีวิต 
  2. การรักษาพยาบาล มีความพร้อมทั้งด้านเตียงรักษาผู้ป่วยทุกระดับสี เกือบ 600 เตียง มียารักษาโรคชนิดฉีดและรับประทาน มีระบบเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาทั้งการสอบสวนโรค ค้นหาเชิงรุก การตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการได้วันละ 1,200 คน 
  3. การควบคุมกำกับ สามารถชะลอโครงการทันทีหากพบผู้ติดเชื้อเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้  ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมจนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวสะสม 1,018 คน ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองอย่างต่อเนื่อง พบผู้ติดเชื้อเพียง 5 ราย และนำเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างเหมาะสม สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ถึง 38,722,100 บาท 

“เราจะเดินหน้าต่อไป ในการพัฒนาด้านการแพทย์และสาธารณสุข สร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว และเชื่อมั่นว่าในปี 2565 เราจะสามารถฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรของประเทศได้ 70-80% เพื่อให้ประชาชนในประเทศปลอดภัย ประกอบอาชีพได้ และสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยว ร่วมกันเดินหน้าเศรษฐกิจของประเทศ” ดร.สาธิตกล่าว