นักบริหารหนุ่มรุ่นใหม่  พลิกวิกฤติ สร้างทางรอด ธุรกิจโรงแรม 

ใครที่ปรับตัวได้เร็วและสนองตอบเทรนด์ โดยเฉพาะเทรนด์สุขภาพ รวมทั้งเทรนด์อื่นๆ ที่รับกระแส New Normal ได้ ก็ถือว่ารอดตัว

เช่นเดียวกับ 2 ธุรกิจโรงแรม ของ 2 หนุ่มนักบริหาร “คริสต์ ปัญญาสุขศรี” ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ควาลิกรีน จำกัด เจ้าของ “โรงแรมครอสทู ไวบ์” กรุงเทพฯ สุขุมวิท และ “ณวรรษ แต่งตั้ง” กรรมการ บริษัท บิ๊กเว็สท์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ท 2 แห่งบนเกาะสมุย ได้แก่ “ซีน สเคป สมุย” ติดหาดเฉวง และ “ธัญสมุย” รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ

• พลิกวิกฤติ รุกขายห้องพัก “ระยะยาว”

โรงแรมครอสทู ไวบ์ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เป็นโรงแรมที่ได้รับการออกแบบ เพื่อรองรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจ และการพักผ่อน ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอ่อนนุช ซึ่งที่ผ่านมา สามารถทำอัตราเข้าพักเฉลี่ยได้ถึง 91% แต่เมื่อเจอวิกฤติโควิด -19 เข้าไป “คริสต์ ปัญญาสุขศรี” บอกว่า อัตราเข้าพักร่วงลงมาจุดต่ำสุด คือ 10% ในช่วงล็อกดาวน์ครั้งแรกเดือน เม.ย. 2563 
 

หากฟังดูอาการตั้งแต่ล็อกดาวน์ครั้งแรก กับสถานการณ์โควิด-19 ที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ก็เหมือนว่า “ครอสทู ไวบ์ กรุงเทพฯ” ไม่น่าจะรอด แต่จนถึงปัจจุบัน “คริสต์”บอกได้ว่า รอดแล้ว เพราะการปรับตัวอย่างรวดเร็วและรอบทิศจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าใช้จ่าย การพูดคุยกับพนักงานเพื่อทำความเข้าใจ พร้อมให้พนักงานรับผิดชอบหน้าที่ที่หลากหลายมากขึ้น 
 ส่วนของการหารายได้ เมื่อลูกค้าต่างชาติหาย ก็ต้องหันมารุกลูกค้าคนไทยเพิ่ม จากเดิมมีฐานลูกค้าคนไทยเข้าพักไม่ถึง 5% ตอนนี้ปรับขึ้นมาเป็น 60-70% ด้วยโปรโมชั่นขาย ห้องพักแบบรายวัน และยังทำแพ็กเกจ “สเตเคชั่น” ในช่วงคลายล็อกดาวน์ครั้งแรก 
 

อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ คือ การดึงบริการขายห้องพัก “ระยะยาว” แบบรายเดือนและรายปี ซึ่งเดิมมีอยู่แล้ว กลับมาทำให้มากขึ้น จากเดิมมีสัดส่วน 10% ตอนนี้ขยับเป็น 75-80% ของอัตราเข้าพักทั้งหมด 30% โดยกระตุ้นด้วยโปรโมชั่นเริ่มต้นที่ 9,900 บาทต่อเดือน เหมารวมค่าทำความสะอาดห้องและค่าน้ำค่าไฟ ทำให้ได้ลูกค้ากลุ่มนักธุรกิจทั้งไทยและเทศ โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมฝั่งตะวันออก 
และอาจารย์โรงเรียนนานาชาติ จนกลายเป็นรายได้หลักในปัจจุบัน 
 

“คริสต์” เล่าว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงติดตามสถานการณ์ หากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องพยายามปรับตัวให้สอดรับอย่างรวดเร็ว แต่หากถามถึงช่วงหลังโควิด-19 โดยเบื้องต้นยังเชื่อว่า “มาตรฐานด้านสุขอนามัย” ยังต้องมาเป็นที่หนึ่ง โรงแรมต้องรักษามาตรฐานในจุดนี้ พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า พร้อมกับการเตรียมตัว เพื่อแข่งขันในสนามสงครามราคา ที่เชื่อว่ามาแน่นอนหลังเปิดประเทศได้ เพราะทุกคนต้องการดึงรายได้กลับมาให้เร็วที่สุด

• เตรียมเปิดออฟชั่น “แฟรนไชส์สุขภาพ” ฟื้นธุรกิจ

เป็นที่เข้าใจตรงกันว่า “เทรนด์สุขภาพ” ได้กลายเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับธุรกิจโรงแรม “ณวรรษ แต่งตั้ง” จึงไม่พลาดที่จะนำจุดแข็งด้านสุขภาพของ  “ธัญสมุย” รีสอร์ทเพื่อสุขภาพ ออกมาขยายผล โดยคุณแม่ “ธัญญรัตน์ เพชรพรหม” ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นคีย์แมนด้านสุขภาพของโรงแรมมาเป็นกำลังสำคัญของการขับเคลื่อน
 

แนวคิดของ “ณวรรษ” เริ่มตั้งแต่การรุกสู่ตลาดออนไลน์ ขายสูตรดีท็อกซ์ร่างกายให้ชาวต่างชาติผ่านเอเย่นต์  โดยมี “ธัญญรัตน์”
เข้ามาเป็นผู้วินิจฉัยสุขภาพลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ได้สูตรดีท็อกซ์ที่เหมาะกับแต่ละบุคคล โดยตั้งราคาไว้ที่ 8,000-10,000 บาทต่อคน รวมถึงขายวิตามินบำรุงร่ายกายอื่นๆ เพิ่มเติม 
 

อีกหนึ่งไอเดีย ที่ “ณวรรษ” เตรียมไว้ คือการต่อยอดจากสูตร ดีท็อกซ์ ไปสู่การขายแฟรนไชส์ให้นักลงทุนต่างชาติที่สนใจ อยากทำรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ โดยต้องมีสถานที่เป็นรีสอร์ทใกล้ชิดธรรมชาติ มีพื้นที่สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกและจัดกิจกรรมดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตามแบบฉบับของ “ธัญสมุย” ซึ่ง “ธัญสมุย” จะเป็นผู้ส่งสูตรการดูแลสุขภาพไปให้ และมี “คุณธัญญรัตน์” เป็นผู้วินิจฉัยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าผ่านออนไลน์ ซึ่งขณะนี้ มีนักลงทุนต่างประเทศทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ จีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่สนใจซื้อแฟรนไชส์แล้ว

“การพัฒนาโรงแรมและรีสอร์ทในยุคระหว่างและหลังโควิด-19 จะต้องเป็นสถานที่ที่มากกว่าการพักผ่อน มากกว่าการมาถ่ายรูปเพื่อโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย” 
 

นี่คือ เส้นทาง “รอด” ที่แตกต่างระหว่างผู้บริหารหนุ่มของโรงแรม “ครอสทู ไวบ์ กรุงเทพฯ” และ “ธัญสมุย” 

หน้า 16-17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,704 วันที่ 12 - 14 สิงหาคม พ.ศ. 2564