ยกระดับเดินทางเข้าภูเก็ตสกัดเชื้อจากภายนอกเข้าพื้นที่เริ่ม25ก.ค.นี้

23 ก.ค. 2564 | 13:15 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2564 | 20:33 น.

ภูเก็ตยกระดับมาตรการเดินทางเข้าภูเก็ต ทุกคนที่เดินทางเข้ามารวมคนภูเก็ตต้องฉีดวัคซีนและมีผลตรวจโควิดเป็นลบภายในเวลาไม่เกิน 72 ชั่งโมง มีผลบังคับใช้ 25 กรกฏาคมนี้ เพื่อป้องกันเชื้อจากภายนอกเข้าพื้นที่ หวั่นกระทบ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์”

วันนี้(วันที่ 23 ก.ค. 2564)นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ต มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดภูเก็ตรวม 20 คน แยกเป็นในภูเก็ต 18 คน และจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 2 คน

 

คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ตมีมติว่า ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. - 2 ส.ค. 2564 จังหวัดภูเก็ตมีการยกระดับมาตรการเดินทางของทุกคนที่จะเข้าภูเก็ตจาก 76 จังหวัด รวมกรุงเทพมหานครและคนภูเก็ต  ต้องแสดงหลักฐาน ดังนี้

 

  • มีผลการฉีดวัคซีนรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 ตามที่จังหวัดกำหนด คือ ซิโนแวค (Sinovac), ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ต้องครบ 2 เข็ม ส่วน แอสตราเซนิกา (AstraZeneca), ไฟเซอร์ (Pfizer), โมเดอร์นา (Moderna), จอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน (Johnson and Johnson) จำนวน 1 เข็ม อย่างน้อย 14 วัน
  • เด็กอายุระหว่าง 6-18 ปียังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้ต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิด - 19
  • อายุมากกว่า 18 ขึ้นไปต้องปฏิบัติตามมาตรการทุกขั้นตอน
  • แสดงผลการตรวจหาเชื้อวิธีสวอบ หรือ RT-PCR หรือ Antigen Rapid Test ทั้งสองอย่าง ในการบังคับใช้หลักเกณฑ์เดิมผลตรวจต้องเป็นลบมาไม่น้อยกว่า 72 ชั่วโมง เช่น ผู้ที่ยังไม่มีวัคซีน ผู้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แต่เกินกว่า 6 ปี สามารถแสดงผลเฉพาะสวอบได้เพราะยังไม่สามารถฉีดวัคซีนได้

                         ยกระดับเดินทางเข้าภูเก็ตสกัดเชื้อจากภายนอกเข้าพื้นที่เริ่ม25ก.ค.นี้                                                  

แต่มีข้อยกเว้นบางประการ เช่น รถฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยฉุกเฉิน กู้ชีพกู้ภัยที่ต้องรับส่งผู้ป่วยฉุกเฉินเข้ามาได้ รถขนส่งยา เวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ วัสดุครุภัณฑ์ทางการแพทย์ต้องมีหนังสือรับรองการขนส่งสินค้า และผู้ที่นัดหมายฉีดวัคซีนเข็มที่สองต้องแสดงใบนัดหมายและต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยจึงเข้ามาได้ การแสดงหลักฐานว่าเป็นคนภูเก็ตก็สามารถเข้าได้ เป็นต้น

มาตรการการยกระดับที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ใช้ระยะเวลาประมาณ 9 วันโดยมีเป้าหมายเพื่อต้องการ ควบคุมและลดการติดเชื้อภายในจังหวัดภูเก็ตให้ลดลง ดังนั้นขอความร่วมมือประชาชน งดการเดินทางออกนอกเขตจังหวัดภูเก็ต

 

นายปิยพงศ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่กังวลคือเชื้อจากภายนอกที่เข้ามาในพื้นที่ แม้จะสร้างความไม่สะดวกกับชาวภูเก็ตบ้างแต่ระยะเวลาที่บังคับรวม 9 วันเท่านั้น ถ้าผ่านพ้นช่วงนี้อาจควบคุมสถานการณ์ได้ดีขึ้น ลดปริมาณการติดเชื้อในจังหวัดภูเก็ต ถ้ามีการควบคุมโรคโควิด-19 แล้วยังมีผู้ติดเชื้อถึง 90 รายต่อสัปดาห์ อาจจะมีผลกระทบกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แน่นอน และมาตรการการปรับกิจกรรมจะชัดเจนกว่านี้

 

สำหรับข้อมูลนักท่องเที่ยวภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เดินทางเข้ามาตั้งแต่ 1 - 22 ก.ค. 2564 จำนวน 9,358 คน บินกลับไปประมาณ 3,000 คน ยังคงอยู่ประมาณ 6,000 คน โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ส่งผลดี คือ เศรษฐกิจเริ่มมีการเคลื่อนไหว

ยกระดับเดินทางเข้าภูเก็ตสกัดเชื้อจากภายนอกเข้าพื้นที่เริ่ม25ก.ค.นี้

โดยมีการประเมินว่ามีการใช้จ่ายคนละ 4,000 บาทต่อวัน มีเงินหมุนเวียนราว 200 - 300 ล้านบาท มีการจองห้องพัก ก.ค. - ก.ย. 2564 จำนวน 240,000 ห้อง ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ มีการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น

 

คนที่อยู่ในสายอาชีพต่างๆ เริ่มได้รับผลในทางที่ดีขึ้น ร้านริมทางเริ่มคึกคักมีแรงงานกลับเข้ามาถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ตอนนี้ทั่วประเทศตัวเลขผู้ติดเชื้อสูง เป็นห่วงว่าถ้าตัวเลขเยอะนักท่องเที่ยวอาจจะไม่สูงอย่างที่ตั้งเป้า แต่ที่เข้ามาทุกวันนี้ยอดเข้ามายังไม่ลดลง อยู่ในค่าเฉลี่ยวันละกว่า 300 คน ยังไม่มีการยกเลิกการเดินทาง ภาพรวมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ถือว่าดี ยังคงเป็นความหวังของภูเก็ต