พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.นัดพิเศษว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค.ขอให้คณะแพทย์ที่ปรึกษา มีการทบทวนมาตรการสาธารณสุข เพื่อเสนออย่างเร่งด่วน ขอให้สื่อมวลชน ประชาชนติดตามการรายงานเร็วๆนี้ อาจจะมีการปรับมาตรการให้เข้มขึ้น
จากการรายงานการกำกับมาตรการใน 5 วันที่ผ่านมา นำมาสู่ข้อสรุปในที่ประชุมที่มีความเป็นห่วง อาจจะมีการปรับมาตรการให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น อาจจำเป็นต้องปิดกิจการบางอย่าง
ต้องเน้นย้ำว่า มาตรการล็อกดาวน์ที่ประกาศไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นไปตามสถานการณ์ที่เป็นปัจจุบัน เป็นการล็อกดาวน์เป็นพื้นที่ มีการควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เฉพาะใน 10 จังหวัด ไม่ใช่ทั้งประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีความเดือดร้อนน้อยที่สุด เมื่อมีการรายงานทบทวนมาตรการ 5 วันที่ผ่านมา ยังพบว่า การบังคับใช้มาตรการ ยังน่าเป็นห่วง
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า มีการรายงานตัวเลขของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง หรือศปม.ใน 2-3 มาตรการที่เน้นย้ำประชาชนไปก่อนหน้านี้ ส่วนแรก คือ การกระทำความผิดที่ศปม.รายงาน 217 ราย มีการฝ่าฝืนมาตรการห้ามออกนอกเคหสถาน 158 ราย ฝ่าฝืนมาตรการห้ามรวมกลุ่ม 59 ราย ทั้งหมดนี้ถูกดำเนินคดีไป 45 ราย ที่เหลือจำหน้าที่พยามยามตักเตือนและขอความร่วมมือ
ศปม.เน้นย้ำว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ จะเพิ่มความเข้มงวดและขอความร่วมมือประชาชน ทั้งในแง่ของการทำตามมาตรการ การออกนอกเคหสถาน การห้ามรวมกลุ่ม หรือการเดินทางภายในประเทศ ของประชาชนด้วย
"จากการรายงานของหลายๆหน่วยงงาน พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมืออย่างดีมาก ต้องขอขอบคุณ แต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วน บางกลุ่ม ที่อาจจะยังไม่ปฏิบัติตามมาตรการได้ ทำให้รายงานการติดเชื้อยังมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง"ผู้ช่วยโฆษกศบค.กล่าว