แด่....นักรบผู้อาภัพ 4

08 พ.ค. 2566 | 05:15 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 18:39 น.

แด่....นักรบผู้อาภัพ 4 คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

ในอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็มีรุ่นน้องศิษย์เก่าโรงเรียนสันติคีรี (โรงเรียนจีนแม่สลอง) รุ่นที่ 11 ท่านหนึ่ง ผมเป็นรุ่นที่ 7 ของโรงเรียนนี้ครับ เขาได้ส่งข้อความมาขอบคุณผม ที่ยังไม่ลืมชีวิตบนดอยแม่สลอง อีกทั้งได้ส่งรูปภาพต่างๆ มาให้ เพราะน้องท่านนี้ อดีตก็เคยเป็น “กลุ่มทหารเด็ก” ที่ผมเล่าไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ต้องขอขอบคุณด้วยใจจริงครับ
      
ช่วงปี 2519-2523 เป็นช่วงที่ประเทศไทยของเรา อยู่ในภาวะค่อนข้างจะวุ่นวายกับการเมืองภายในประเทศ และความไม่สงบจากการรุกคืบ ของผู้ที่มีอุดมการณ์ฝักใฝ่ระบบการปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ ทำให้เกิดการสู้รบตามแนวตะเข็บชายแดน และด้านในประเทศในแถบภูเขาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขาค้อ เขาย่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นการสู้รบกันระหว่างกลุ่มแม้วแดงกับทหารไทย เป็นเวลานานกว่า 10 ปี 

ต่อมาก็มีการประชุมร่วมกันระหว่างผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลไทยยุคนั้น ร่วมกับกองกำลังก๊กหมินตั๋งของกองพล 93 ที่นำกำลังโดยท่านนายพลต้วน ซี เหวิน ซึ่งพวกพี่น้องที่เป็นเด็กนักเรียนในโรงเรียนจีน มักจะได้ถูกเกณฑ์ไปมอบดอกไม้ หรือเข้าแถวโบกธงต้อนรับการมาของนายทหารระดับสูงจากรัฐบาลไทยอยู่เสมอ ผมเองก็มีโอกาสได้ไปต้อนรับเช่นเดียวกัน ผมจำได้ติดตาเลยว่า มีท่านนายกรัฐมนตรีที่เป็นพลเอกท่านหนึ่ง (ขออนุญาตไม่เปิดเผยนามของท่านนะครับ) ที่ในยุคนั้น ท่านก็ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์มาเยี่ยมเยือนกองพล 93 เช่นกัน ซึ่งรุ่นเราจะถูกคุณครูเกณฑ์ให้เด็กนักเรียนที่เป็นผู้หญิง เป็นผู้ไปมอบดอกไม้ต้อนรับ ส่วนที่เหลือก็เข้าแถวรอรับด้วยการโบกธงชาติไทย และธงชาติจีนคณะชาติของไต้หวันในยุคนั้นครับ
      
ต่อมาหลังจากที่ผมได้เดินทางไปเรียนที่ไต้หวันแล้ว ก็ทราบมาว่าทางการไทย ได้เชิญกลุ่มทหารจากกองพล 93 ของพรรคก๊กหมินตั๋ง ไปร่วมรบที่บนดอยเขาค้อ เขาย่า ซึ่งทางกลุ่มกองพล 93 ก็ยินดีเข้าร่วมเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในเดือนมกราคม พ.ศ. 2524 ทางกองทัพไทย นำโดยท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ตกลงให้กำลังของกองพล 93 เข้าไปร่วมรบด้วย ฝ่ายของกองพล 93 ก็ได้ส่งกำลังที่นำโดยท่านพลเอก หลุย หยี่ เถียน 200 นาย และท่านพลเอก หลี่ เหวิน ฮ่วน 200 นาย 

ยังมีกองกำลังจากผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น นำโดยพันเอก ต้วน กั๋ว เชี่ยง 200 นาย และกองกำลังจากแม่แอบ นำโดยพันเอก อู๋ หยง ชาง อีก 200 นาย โดยท่านนายพลต้วน ซี เหวิน ได้มอบหมายให้ท่านพันเอก เฉิน เหมา ซิว (ไอดอลของผม) ร่วมกับพันเอก หยาง กั๋ว กวง (คุณพ่อของเพื่อนรักผม) เป็นผู้บัญชาการทหาร มอบหมายให้พันโท กู่ เซียะ จิ้ง เป็นเสนาธิการทางฝั่งของทหารกองพล 93 ในยุทธภูมิรบครั้งนี้
      
ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทุกกองกำลังได้ออกเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่อำเภอเชียงคำ เพื่อไปลงที่สนามบินพิษณุโลก จากนั้นได้เข้าไปรายงานตัวและมีการซักซ้อมการรบร่วมกับทหารไทย ที่กองทัพภาคที่ 3 จังหวัดพิษณุโลก เพื่อร่วมฝึกซ้อมรบกับทหารหาญของรัฐบาลไทย ซึ่งใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ก็สามารถร่วมรบได้อย่างมีประสิทธิภาพเลยครับ
      
ในเวลา 16:00 น.ของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ทหารหาญของกองพล 93 ก็ได้เดินทางเข้าสู่ที่ตั้งที่เขาค้อและเขาย่า เตรียมตัวบุกเข้าถล่มแม้วแดงเลยทันที และแล้วเช้าตรู่ของวันที่ 17 การสู้รบก็ได้เริ่มเปิดฉากขึ้นทันที ทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายแม้วแดงตั้งตัวไม่ติด จากนั้นก็บุกตะลุยต่อจนในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ก็สามารถเข้าไปยึดฐานแรกของผู้ก่อการร้ายแม้วแดง ที่บ้านเกิ่งชายได้ 

ในครั้งนั้น สามารถทำให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายแม้วแดง ต้องยอมมอบตัวมากถึง 70 คน ซึ่งมีทั้งชายและหญิง ภารกิจมาประสบผลสำเร็จในฐานที่มั่นแรก แบบที่ฝ่ายตรงข้ามยอมศิโรราบจริงๆ ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แต่ยังมีบางส่วนที่อยู่บนภูเขาสูง ด้านเขาย่าที่ยังไม่ยอมวางอาวุธ ซึ่งต่อมาในวันที่ 4 มีนาคม ฝ่ายทหารกองพล 93 ได้เริ่มปฏิบัติการต่อ 

โดยมีคำสั่งให้พันตรี หลี่ สู้ หยง นำทหาร 96 นาย ปีนหน้าผาทางด้านเหนือของเขาย่า โดยบุกเข้าไปในตอนกลางคืน เช้าตรู่ของวันที่ 5 มีนาคม ก็ใช้ยุทธวิธีโจมตีแบบสายฟ้าแลบ แต่ฝ่ายแม้วแดงก็ยังคงต่อสู้อยู่ตลอดเวลา การสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด กระทั่งวันที่ 6 มีนาคม กองพล 93 จึงมีคำสั่งให้พันเอก อู๋ หยง ชาง นำกำลังจากแม่แอบ 200 นายเข้าเสริมทัพ โดยตลบหลังเข้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขาย่า เพื่อช่วยเหลือพันตรี หลี่ สู้ หยง แต่ก็ถูกฝ่ายแม้วแดงซุ่มโจมตี กองกำลังกองพล 93 เสียชีวิตในสมรภูมินั้น มีมากถึง 30 กว่านาย 

ทำให้ในวันที่ 7 มีนาคม ต้องรีบเสริมกำลังเข้าไปอีก โดยสั่งให้พันตรี หนี่ ซื่อ ผิ่น นำหน่วยกล้าตาย 50 นายเข้าตลบหลัง โอบล้อมกลุ่มผู้ก่อการร้ายแม้วแดงอีกครั้ง การสู้รบเป็นไปอย่างต่อเนื่องและกล้าหาญ อีกทั้งกองทัพภาคที่ 3 ของทหารไทยเรา ก็เสริมกำลังทางอากาศ และปืนใหญ่เข้าช่วยถล่มกลุ่มแม้วแดง จึงทำให้ยึดฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายได้สำเร็จในวันที่ 8 มีนาคม 

ซึ่งสมรภูมิเขาค้อที่แข็งแกร่งของกลุ่มผู้ก่อการร้ายแม้วแดง ใช้เวลาเพียงแค่ 22 วันก็จบสิ้นลง ในยุทธการครั้งนั้น ผู้ก่อการร้ายแม้วแดงถูกทำลายอย่างราบคาบ ทางการไทยได้จับกุมตัวผู้ก่อการร้ายเป็นจำนวนมาก รวมทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ และเอกสารเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์อีกมากมาย ในส่วนของความสูญเสียของฝ่ายเรา ทหารกองพล 93 ได้เสียชีวิตลงทั้งหมด 82 นาย บาดเจ็บ 56 นาย 
        
ภารกิจดังกล่าว ได้แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของเหล่าทหารกลุ่มนี้ อีกทั้งนำมาซึ่งรากฐานของการพัฒนาพื้นที่ ในเขตอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ จนกระทั่งทุกวันนี้ การพัฒนาของเขาค้อ ได้รุดหน้าไปสู่ดินแดนแห่งการท่องเที่ยว ผมเองได้เคยเดินทางไปเที่ยวที่เขาค้อหลายครั้ง ทุกครั้งที่ไปถึง ก็จะทำให้รำลึกถึงวีรกรรมของสมรภูมิเขาค้อของกองพล 93 ที่ผมเคยคลุกคลีมาตั้งแต่เยาว์วัยเสมอครับ
           
อาทิตย์หน้าผมจะขออนุญาตเล่าต่ออีกหนึ่งอาทิตย์ ถึงกลุ่มทหารที่ปัจจุบันนี้ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ที่บนดอยอีกจำนวนน้อยนิด ว่าความเป็นอยู่ของเขาเหล่านั้น ว่าวันนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง แม้เขาจะได้รับพระราชทานสัญชาติและที่ดินทำกินแล้ว แต่เราก็ควรต้องระลึกถึงพวกเขาให้มากๆ ประดุจดังว่าเขาเป็นทหารผ่านศึกของไทยเราคนหนึ่งเช่นเดียวกันครับ