ลมหายใจรักษาทุกโรค

14 ก.ย. 2566 | 03:30 น.
684

ลมหายใจรักษาทุกโรค คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราชรามัญ

ความตายของมนุษย์มีอยู่แค่ 2 ลักษณะ ถ้าพูดแบบภาษาชาวบ้านเข้าใจง่ายๆ ก็คือ ตายโหง กับ ตายห่า

การเกิดอุบัติเหตุ หรือการตายที่ผิดวิสัยแห่งธรรมชาติ ที่ไม่ได้ป่วยตาย หรือแม้แต่การฆ่าตัวตาย เรารวมเรียกว่าตายโหง ตามความเชื่อลัทธิผี เขาจะบอกว่าวิญญาณของคนที่ตายลักษณะแบบนี้ค่อนข้างเป็นทุกข์ แล้วก็เฮี้ยน

ส่วนการตายห่า ก็มาจากคำว่าโรคห่า คือเจ็บไข้ได้ป่วยแล้วเสียชีวิต แม้แต่การนอนติดเตียง หรือการนอนหลับไปเฉยๆ เพราะว่าเป็นโรคชราก็ยังอยู่ในหมวดของการตายห่าเช่นเดียวกัน เพราะว่าเป็นอาการที่ภาวะภายในไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ 

ประชากรบนโลกวันนี้มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยกันค่อนข้างมาก และสุดท้ายก็เสียชีวิตโรคร้ายๆ ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมะเร็ง, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง,โรคหัวใจ, เหล่านี้ล้วนแต่เป็นโรคยอดฮิต ยอดนิยม มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในแต่ละปี

 

แรกเริ่มที่มีอาการของโรคร้ายๆ เชื่อหรือไม่ว่ายังรักษาได้ ให้อาการนั้นๆ บรรเทาหรือทรงตัว วิธีการรักษาก็อาศัยความเป็นธรรมชาติมาบำบัดธรรมชาติ หมายความว่า ร่างกายของมนุษย์ก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งบนโลกใบนี้ แต่ถ้าเราเอาสิ่งแปลกปลอมที่เกิดจากการสังเคราะห์เข้าไปบำบัดรักษา ก็อาจจะทำให้ธรรมชาติที่เรียกว่าอวัยวะภายในนั้นเสียหายได้เร็วกว่าปกติ

เกือบทุกโรคที่เป็นๆ กันนั้น เลือดมีส่วนสำคัญที่ผลักดันให้เป็น เราจะเห็นได้ว่าแพทย์เพียงแค่นำเลือดของเราไปเข้าห้องแล็บ เพื่อตรวจค้นก็จะพบได้ว่าเราเป็นโรคอะไรบ้าง ดังนั้น เลือดจึงมีส่วนเกี่ยวข้องและสำคัญอย่างมาก

ลมหายใจ สามารถรักษาทุกโรคได้ นี่คือเรื่องจริง เพราะว่าลมหายใจที่เราสูดเข้าไปนั้น ถ้าเราสูดอย่างถูกต้อง ออกซิเจนก็จะเข้าไปเต็มปอด และส่งไปถึงเส้นเลือดฝอยต่างๆ ที่เชื่อมโยงแล้วก็เข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ จะทำให้อาการเลือดที่หนืดข้นกลับกลายเป็นเดินราบรื่นขึ้น และทำให้เม็ดเลือดมีความแข็งแกร่ง แข็งแรง มีภูมิต้านทานที่สามารถเข้าไปต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ ได้ด้วยการสร้างภูมิขึ้นมาคุ้มกัน คนป่วยเขาจึงให้พักผ่อนมากๆ อย่าเคลื่อนไหวร่างกายมาก อย่าใช้พลังงานภายในมาก การนอนนิ่งๆ แล้วสูดลมหายใจตามปกติก็เพียงพอที่จะทำให้เข้าไปบำบัดซ่อมแซมร่างกายได้ แต่ถ้าเราเคลื่อนไหวด้วยและหายใจด้วย ก็ยากที่จะทำให้ออกซิเจนสามารถเข้าไปบำบัดสุขภาพร่างกายภายในได้อย่างเต็มที่

ไม่ออกซิเจนดีๆ เข้าไปก็จะเข้าไปสู่เส้นเลือด ส่วนเวลาหายใจออก สิ่งที่สกปรกอยู่ในภายในก็ออกมาด้วยกับลมหายใจ บางคนจึงหายใจออกมาแล้วมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ 

ในทางพุทธศาสนา การภาวนาสมาธิ ถ้าอวัยวะร่างกายภายในของเราไม่สมบูรณ์, ติดขัด หรือเจ็บไข้ได้ป่วย ลมหายใจจากการนั่งสมาธิก็จะเข้าไปบำบัดจุดต่างๆ ให้ผ่อนคลาย จึงจะสามารถทำให้นักปฏิบัติทั้งนั้นเข้าสู่ความสงบระดับองค์ฌานได้ อานาปานสติจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งนัก

วิธีการปฏิบัติลมหายใจเพื่อรักษาทุกโรค ไม่ต้องมีพิธีกรรมพิธีรีตองใดๆ ทั้งสิ้น ให้คุณนั่งสบายๆ แล้วเวลาหายใจ หายใจเข้าช้าๆ ขณะที่หายใจเข้าเอาความรู้สึกทั้งหมดมาจับที่ลมหายใจ ตอนที่เข้าสูดเข้าไปช้าๆ จนสุดแล้วหยุดไว้นิดนึง แล้วก็ผ่อนคลายให้ลมออกมาแรงๆ ไปกลับแบบนี้เรียก 1 ชุด ขณะที่เราค่อยๆ หายใจช้าๆ เข้าไป เราจะสังเกตเห็นได้ว่าเราหายใจได้เพิ่มมากขึ้น เพราะนั่นคือการหายใจที่ถูกวิธี เพราะจนสุดในลมหายใจเข้าก็หยุดไว้นิดนึง เพื่อคลายลมหายใจออกจนสุดเช่นเดียวกัน ทำแบบนี้อย่างต่อเนื่อง 21 วัน ชีวิตเห็นผลอย่างแน่นอนว่าดีขึ้นเป็นลำดับ 

ลมหายใจ เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่ไม่ต้องไขว่คว้าหาเงินทองมาซื้อขาย แต่ทุกท่านสามารถทำได้ การที่ลมหายใจเข้าและออกตามระบบแบบนั้นจะทำให้ปอดแข็งแรง เส้นเลือดต่างๆ ไม่อุดตัน ไม่หนืด ชีวิตของคุณก็จะยืนยาวไปอีกระดับหนึ่ง 

ทุกโรคบนโลกใบนี้ ล้วนเกิดจากเลือดของเราทั้งสิ้น บางคนเลือดเป็นพิษ บางคนเลือดไม่ดีเป็นบวก ไม่ว่าจะโรคอะไรก็ตาม ถ้าเราหายใจอย่างเป็นปกติโดยถูกวิธีแล้วโรคร้ายต่างๆ ก็จะค่อยๆ บรรเทาลงไปเป็นลำดับ

ในที่นี้จึงกล่าวว่า ลมหายใจรักษาได้ทุกโรค เพียงแต่คุณมีพื้นฐานแนวคิดทางจิตวิญญาณมากหรือน้อยอย่างไร มาถึงประโยคนี้ก็ต้องบอกว่า ขออำนวยอวยพรให้ทุกท่านสามารถนำเอาไปปรับใช้และพบผลลัพธ์ที่ดีต่อชีวิตด้วยกันทุกคน