ความจริงเรื่องเทวดากับมนุษย์

19 ส.ค. 2564 | 04:00 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ส.ค. 2564 | 00:58 น.
1.3 k

ทำมาธรรมะ โดย พระราชรามัญ

ในยุคปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าผู้คนสนใจที่จะเคารพกราบไหว้เทพเทวดาค่อนข้างมาก ทั้งที่ในใจก็บอกว่านับถือพระพุทธศาสนา แต่ความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเทพเทวดาดูเหมือนจะน้อยนิด

หลายคนมักจะถามว่าเทวดานั้นมีอยู่จริงหรือไม่ ถ้าตอบตาม ตรรกะความรู้ เทพเทวดาที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนา หรืออาจจะเรียกว่าเป็นเทพเทวดาที่มีสัมมาทิฐินั้น ที่พระพุทธเจ้าพูดถึง ออกชื่อมากที่สุด เห็นจะเป็นท้าวสักกะเทวราช หรือที่คนไทย เรียกกันว่า พระอินทร์

ส่วนเทพเทวดาที่มีชื่ออื่นๆนั้น อาจจะปรากฏบ้างแต่ไม่มากและไม่บ่อยครั้ง ทีนี้ก็ตั้งคำถามว่า มนุษย์ ถ้าเกิดกราบไหว้เทพเทวดา ย่อมจะส่งผลอะไรใดๆให้บ้าง

อยากให้ลองพิจารณาจากเรื่องนี้ 

ครั้งหนึ่ง ในครอบครัวของพราหมณ์ เมื่อ บุตรชายของพราหมณ์มณีออกไปบวชแล้วในสำนักพระพุทธเจ้าแล้วได้เป็นพระอรหันต์ ทุกเช้าแม่พราหมณ์มณีทำอาหาร แต่ไม่เคยใส่บาตรพระลูกชายเลย

กลับนำอาหารนั้นไปตั้งไว้กลางแจ้งเพื่อสักการะพระพรหม ทำทุกวัน พระลูกชายมายืนถือบาตรอยู่หน้าบ้านตนก็ไม่เคยคิดจะนำเอาอาหารมาใส่

นานเข้าร้อนถึงพระพรหม ต้องเสด็จลงมาจากสวรรค์ แล้วบอกกับนางพราหมณีนั้นว่า อาหารที่เจ้าทำสักการะเรา เราได้แต่รับรู้ แต่กินไม่ได้

เจ้าควรนำเอาอาหาร ที่ทำมาเพื่อสักการะเรา ไปถวายพระลูกชายเถิด จะได้อานิสงส์ผลบุญมาก เพราะ พระลูกชายนั้นเป็นพระอรหันต์แล้วไม่ต้องนำเอาอาหารใดๆมาสักการะเราเลย

จากเรื่องนี้เราจะเห็นได้ว่า

1.เทพเทวดามีอยู่จริง

2.อาหารที่เราทำการสักการะเทพเทวดานั้น เทพเทวดากินไม่ได้ 

3.เทพเทวดาจะไม่ยุ่งกับมนุษย์แต่อย่างใด

อีกเรื่องหนึ่งซึ่งพอยกเป็นตัวอย่างได้ อนาถบิณฑิกเศรษฐี สร้างโรงทาน ให้ผู้คนมาทานอาหารฟรี และทำบุญตักบาตรทุกวัน เทวดาองค์หนึ่งที่อาศัยขื่อบ้านเศรษฐีอยู่นั้นมาเตือน ว่าเงินก็ใกล้จะหมดแล้วยังคิดแต่ทำบุญอยู่ได้ อนาถบิณฑิกเศรษฐีจึงขับไล่เทวดา ให้ไปอยู่ที่อื่น เทวดาไม่มีที่อยู่ ก็ไปกราบพระพุทธเจ้าเล่าเรื่องราวให้ฟัง พระเจ้าบอกให้มาขอโทษท่านเศรษฐี

นี่เราเพียงย่อๆ เพื่อต้องการให้เห็นว่า ถ้าเราเป็นผู้ที่ มีหัวใจที่เต็มเปี่ยมด้วย ศีลธรรมอันงดงามแล้ว แม้เทพเทวดาก็ยังต้องเกรงใจ ดังนั้นถ้าใคร นำเอาเรื่องเทพเทวดามา บังคับเราก็ดี มากล่าวอ้างต่างๆนานาก็ดี ขอให้ยึดใน ตรรกะความรู้ ที่เกี่ยวเนื่องกับพุทธศาสนานี้ เป็นแม่แบบในการพิจารณาแล้วตัดสินใจ จะทำให้ชีวิตของเรานั้นไม่ถูกร้อยรัดด้วยสิ่งที่ ถูกอ้างว่าศักดิ์สิทธิ์ อย่างไร้เหตุผลอีกต่อไป