ขนมผักกาด

21 พ.ค. 2565 | 13:28 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ค. 2565 | 20:44 น.
1.5 k

คอลัมน์ อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

คนไทยเรานี้ ลงอะไรเปนของกินที่ไม่ใช่ข้าว ท่านว่ามันย่อมคือขนมทั้งนั้น จะขนมจีนก็ว่า จะขนมปังก็ใช่ อาจเปนด้วยว่าในใจลึกๆของไม่เห็นเปนเมล็ดข้าวมันกินไม่อิ่ม_ไม่อยู่ท้องไม่เหมือนกินข้าวเสียกระมัง ส่วนผักกาดนั่น เวลาพูดเฉยๆมันเห็นภาพเปนแต่ใบ_ใบผักกาดถ้าจะให้เอาทำขนมต้องใช้ว่าหัวผักกาด ซึ่งก็คือที่เรียกกันว่า หัวไชเท้านั่นเอง
 

การจะทำขนมชนิดนี้ให้ยุ่งยากก็ควรหาเรื่องโม่แป้งเองสักหน่อย เพราะว่าอีการโม่แป้งเอาแป้งสดๆมาทำขนมมันดีกว่าเอาแป้งข้าวเจ้าผงมาทำ มัน real กว่าเหนื่อยกว่า แต่รสชาตินั้นกินสดชื่นกว่า55 มันโอชา

งานนี้ใช้ปลายข้าว/ข้าวหักก็ได้ ไม่ต้องใช้ข้าวสารเต็มเม็ดให้มันเปลือง
 

พอแช่แป้งและโม่แล้ว ใส่ถุงผ้าขาวบางเอาโม่ทับน้ำพอจวนหมาด ก็เอาหัวผักกาดไชเท้ามาไสฝอยๆ บีบๆหน่อยน้ำหัวผักกาดไม่เอา เอาแต่เนื้อๆ
 

ใช้แป้งที่ว่า ๓ ส่วน ต่อหัวผักกาดไสฝอย ๒ ส่วน เติมกุ้งแห้งตัวย่อมอย่างดี หยิบมือเดียวก็พอ ถั่วลิสงเม็ดเต่งๆมีก็เอาใส่สักหน่อยพอเคี้ยวเกลือไม่ต้องใส่ เพราะเค็มจากกุ้งแห้งแล้ว หรือถ้าเจอกุ้งแห้งจืดแบบเศรษฐีเขากินใช้ ก็ให้เติมเกลือได้แต่อย่ามาก ไม่ดีต่อไต เติมน้ำมัน (หมู) ลงไปในแป้งได้เล็กน้อย ต้นหอมซอยก็ใส่หน่อย_เอากลิ่น จากนั้นเอาแป้งผสมนี้ใส่ลังถึงที่ปูผ้าขาวบางตั้งน้ำเดือด นึ่งพอสุก ตักแป้งที่เป็นแท่งขณะยังอุ่นออก หั่นเป็นแผ่นหนาๆสักนิ้วครึ่งนิ้ว

ทีนี้ก็ลงมือค่อยทอดไฟอ่อน พอข้างนอกเกรียม จึงใช้ไฟแรงใส่กระเทียมปนลงไปเจียวด้วย
 

พอขนมเกรียมเหลือง จึงตัดเป็นชิ้นย่อมๆตอกไข่ใส่ ถั่วงอก ใบกุยช่าย โรยน้ำปลาดีให้ถูกไฟ ตักขึ้นร้อนๆ โรยพริกไทยบางๆ เสิร์ฟกับซอสพริกสกุลศรีราชาจะได้รสพอดีพอดิบ ถ้าเปนเบาหวานใช้ยี่ห้อโกศล ลดปริมาณน้ำตาลไป 80% รสชาติเขาไม่ลดลงตามปริมาณน้ำตาลเลยทีเดียว


นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 หน้า 18 ฉบับที่ 3,785 วันที่ 22 - 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2565