สงกรานต์ปลอดภัย

เทศกาลมหาสงกรานต์ขึ้นศักราชใหม่ของคนไทย 13-15 เมษายน ทุกปี เป็นประเพณีที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนานของไทย ที่มีการถือฤกษ์เบิกชัย ยึดเอาวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ ทำอะไรใหม่ๆ ทำในสิ่งดีๆ เป็นมงคลกับชีวิต ทำบุญ เข้าวัด ซึ่งผู้ที่เข้ามาอาศัย เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ก็ได้อาศัยวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวพบปะญาติพี่น้องในต่างจังหวัด เข้ารดน้ำดำหัว ขอพรผู้หลักผู้ใหญ่

ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโลกและประเทศไทยเผชิญโรคระบาดโควิด-19 การเดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวจะลดน้อยถอยลงไป บางที่บางแห่งงดจัดงานกิจกรรมสังสรรค์รื่นเริงช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 3 แต่สงกรานต์ปีนี้บางสถานที่เริ่มจัดกิจกรรมบ้าง ภายใต้มาตรการคุมเข้มในการป้องกันโควิด หลังว่างเว้นมา 2 ปี โควิดวายร้ายทำให้ประเพณีสงกรานต์ที่งดงามกร่อยลงไปมาก

อย่างไรก็ดีการกลับไปเยี่ยมครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็มีความจำเป็น หรือกระทั่งการใช้โอกาสนี้ออกไปพักผ่อน ท่องเที่ยว ก็สำคัญสำหรับบางคน แต่ต้องตระหนักถึงการป้องกันโรคโควิดเอาไว้ด้วย โดยประมาณการจากกระทรวงสาธารณสุข ที่ออกมาประเมินหลังสงกรานต์ปีนี้ จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับหลังสงกรานต์ปีก่อน ทั้งในส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ ผู้ป่วยอาการหนัก และผู้เสียชีวิต จากขณะนี้ผู้ติดเชื้อเฉลี่ยเกิน 2 หมื่นรายต่อวันและผู้เสียชีวิตเกิน 100 คนต่อวัน

การคาดการณ์เปรียบเทียบยอดผู้ป่วยหนักและเสียชีวิต ช่วงหลังสงกรานต์ 2 ปีก่อนกับปีนื้ สัดส่วนระหว่างการป่วยหนักต่อผู้ติดเชื้อลดลง โดยช่วง 2 ปีก่อนติดเชื้อวันละหลักพันราย พีค 23,000 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 1,300-1,400 ราย ปัจจุบันใส่ท่อช่วยหายใจ 500 ราย แต่ติดเชื้อมากกว่าเดิม 2-3 เท่าถ้ารวม ATK แต่สิ่งที่กังวลการติดเชื้อจะเพิ่มเป็น 10-20 เท่า ซึ่งตัวเลขผู้ป่วยหนักและเสียชีวิตก็จะเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย หากเป็นไปตามการคาดการณ์ที่เกินควบคุม

การคาดการณ์ฉากทัศน์ ระดับแย่ที่สุด กรณีที่ผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรค ลดแยกกัก-กักตัว ย่อหย่อนต่อมาตรการป้องกันตัวเองแบบครอบจักรวาล จะมีผู้ติดเชื้อสูงสุดราว 1 แสนรายต่อวันช่วงหลังสงกรานต์ ผู้ป่วยปอดอักเสบสูงสุดราว 6,000 รายช่วงต้นเดือนพ.ค.2565 ผู้ป่วยปอดอักเสบใส่ท่อช่วยหายใจสูงสุดจะอยู่ที่ราว 1,700 ราย และผู้เสียชีวิตราว 250 รายต่อวัน

การเดินทางท่องเที่ยว เยี่ยมครอบครัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์สามารถทำได้ แต่ต้องระมัดระวัง ร่วมมือกันป้องกันตัวเองและครอบครัวให้มากที่สุด ด้วยการไม่รวมกลุ่มรับประทานอาหารร่วมกันเป็นเวลานาน สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลากรณีอยู่กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเด็กเล็ก คนชรา คนมีโรคประจำตัว และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดกิจกรรมปาร์ตี้ ที่นอกจากจะช่วยป้องกันโควิดแล้ว ยังช่วยลดอุบัติเหตุการเดินทางด้วยกรณีงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ขอให้ทุกท่านปลอดภัย ปราศจากทั้งโรคภัยไข้เจ็บและอุบัติเหตุ ในเทศกาลมหาสงกรานต์นี้