สภาล่มซ้ำซาก ส.ส.เกียร์ว่าง ไม่ควรเป็นผู้ทรงเกียรติ

*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3756 ระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2565 โดย ...กาแฟขม
 

*** อีกแล้วสำหรับยอดติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย พุ่งขึ้นทะลุ 1 หมื่นรายติดต่อกัน 2 วันติด หลังจากเลี้ยงระดับ 8-9 พันมาหลายวัน โดยข้อมูลยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของวันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 รวม 10,470 ราย ผู้ป่วยจากในประเทศ 10,304 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 166 ราย ผู้ป่วยสะสม 284,036 ราย เสียชีวิต 12 ราย และ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 หายป่วยกลับบ้าน 8,711 ราย หายป่วยสะสม 223,890 ราย ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 และผู้ป่วยกำลังรักษา 92,784 ราย
 

*** แต่ที่พูดกันมากและไม่น่าเชื่อว่าจะทำกัน จนถึงขั้นตำรวจต้องออกมาเตือนกันเลยทีเดียว เมื่อมีผู้พยายามติดโควิด พาตัวเองไปติดโควิดเพื่อเคลมประกัน ตอนนี้มีวิธีการซื้อไม้ swab ตรวจหาเชื้อ ด้วยอยากติดเชื้อโควิด หวังเอาเงินประกัน โดยที่ผ่านมาหลายคนทำประกันภัยโควิด-19 เพื่อคุ้มครองไว้หากติดเชื้อโควิดโดยไม่คาดคิด แต่กลับมีคนบางกลุ่ม จงใจทำให้ตนเองอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 ด้วยการขอซื้อไม้ swab ของผู้ติดเชื้อ เพื่อหวังเคลมเงินประกัน การกระทำเช่นนี้ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงต่อชีวิตแล้ว หากจงใจทำเพื่อหวังเคลมประกัน จะถือว่ามีความผิดฐานฉ้อฉลประกันภัย เป็นความผิดทางอาญา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นี่ตำรวจเขาเตือนมา คิดกันให้ดีๆ จะเจอคุกเอาด้วยนา
 

*** ขลุกๆ ขลักๆ ตลอดทางรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำทัพบริหารประเทศ ด้วยว่าเสียงส.ส.ปริ่มน้ำ สภาล่มซ้ำซากตลอดเวลา นับสถิติกันไม่หวาดไม่ไหวตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมา 16 ครั้ง เรียกประชุมเป็นล่ม เสนอกฎหมาย ทำกฎหมายล่ม แล้วจะบริหารประเทศไปอย่างไร ต้องไม่ลืมว่าอำนาจในการออกกฎหมาย ตรากฎหมายให้ฝ่ายบริหารไปบังคับเป็นเรื่องสภาฯ เป็นผู้ผู้แทนราษฎร เอาอำนาจจากการเลือกตั้งที่ประชาชนให้ไป ให้ไปทำงาน ให้ไปออกกฎหมายเพื่อขับเคลื่อนสังคม สภาล่ม คือ ส.ส.มาไม่ครบองค์ประชุม หน้าที่ฝ่ายรัฐบาลเป็นลำดับแรกที่ต้องจัดการองค์ประชุมให้ครบก็จริง แต่ส.ส.ที่กินเงินเดือนภาษีประชาชน ก็ต้องทำงาน ไม่ใช่สันหลังยาว โดดประชุม หนีประชุม พวกนี้ต้องกาชื่อไว้แล้วลงโทษพวกเขาบ้างในคราวหย่อนบัตรเลือกตั้ง ถ้าไม่ว่างมาประชุม ขาดบ่อย ก็ไม่ต้องมาเป็นผู้แทนประชาชน ถ้าไม่ทำหน้าที่ให้สมศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ ก็ไม่ควรมาเป็นผู้ทรงเกียรติ
 

*** ว่ากันแรงๆ ทำงานกันแบบนี้ ยังมีหน้ามาเป็นผู้แทนประชาชน พวกนี้ไม่ควรสมัครรับเลือกตั้ง เดินพบปะประชาชนด้วยซ้ำ ที่จริงแล้วบ้านเมืองไทยที่ไปไม่ถึงไหน ก็เพราะเรามีผู้แทนที่จ้องจะเล่นการเมือง เอาประโยชน์ใส่ตัวมากกว่าประโยชน์ชาวบ้าน ซึ่งก็เป็นมาหลายปี พวกผู้แทน พวกนักการเมืองทั้งหลาย หาดีได้ยากเต็มที ด้านหนึ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ช่วงชิงอำนาจในห้วงก่อนโน้น ก็บอกว่าจะปฏิรูปการเมือง ก็ไม่เห็นจะปฏิรูปอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จะว่าไปทุกด้าน ทุกเรื่อง ปฏิรูป ปฏิวัติ เปลี่ยนแปลงได้หมด แต่จิตสำนึกเห็นท่าจะปฏิรูปไม่ได้ มันต้องเกิดจากตัวเอง การเมืองไทย ประเทศไทย อีกกี่ปี กี่ชั่วชีวิตจึงจะเทียบนานาอารยะประเทศได้

*** ก้าวขึ้นแท่นเก้าอี้ตัวใหม่ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด มาได้ 2 เดือนเต็มแล้ว สำหรับ นาวา จันทนสุรคน วงการสื่อพากันถามหา งานนี้สงสัยบริหารงานจนไม่มีเวลา รีบโกยราคาเหล็กช่วงขาขึ้น หรือซุ่มเงียบเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันอุตสาหกรรมเหล็กหลังวิกฤติโควิด-19 กันแน่ บรรดากระจิบข่าวฝากถาม

*** วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บอกดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SME Sentiment Index: SMESI) ประจำเดือนธันวาคม 2564 พบว่า ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากเดือนพฤศจิกายน 2564 ที่ระดับ 50.5 มาอยู่ที่ระดับ 51.8 ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับเพิ่มขึ้นเกินระดับค่าฐาน (50) ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น เกือบทุกภาคธุรกิจ และทุกภูมิภาค และคาดการณ์ต่อว่า ความเชื่อมั่นฯ 3 เดือนข้างหน้าจะลดลงจากความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน*
 

*** ใกล้เข้ามาทุกทีกับการสรรหาประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คนใหม่ แทน สุพันธุ์ มงคลสุธี ปีนี้พยากรณ์ง่ายใครจะขึ้นว่าที่ประธานส.อ.ท.คนใหม่ เพราะเสียงเชียร์ยังเทไปที่ เกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานส.อ.ท. ท่วมท้น ด้วยผลงานประจักษ์และประสบการณ์ที่ทำงานเบื้องหลังมากับประธานส.อ.ท.หลายสมัย แน่นอนชื่อนี้ปราศจากข้อสงสัย เมื่อดูตัว เกรียงไกร เอง ที่ทำงานเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอด ตั้งแต่เป็นนายกสมาคมการพิมพ์ไทย ประธานกลุ่มอุสาหกรรมการพิมพ์ ส.อ.ท.เรียกว่าทุ่มเททุกที่ทุกงานที่ผ่านๆ มา