ดยุคเหล็ก The Iron Duke

08 ม.ค. 2565 | 12:48 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ม.ค. 2565 | 19:56 น.
571

คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

ความผิดหวังร้าวลึกในดวงใจของบุรุษชาติอาชาไนยหัวใจเหล็กอย่างดยุคแห่งเอดินเบอระฉายออกมาผ่านดวงพระเนตรอ่อนล้าคลาหน่วย ยามที่แก้วตาดวงใจ_หลานปู่ผู้เปราะบางอย่างเจ้าชายแฮรี่ ดยุคแห่งซัสเซ็กส์ ตัดสินใจถอดเครื่องแบบสลัดบ่าถอยลาจากพระหน้าที่หนาหนักแห่งฐานันดรพระราชวงศ์ ออกไปใช้ชีวิตใหม่คล้ายอิสระสามัญชนในดินแดนเกิดใหม่อย่างสหรัฐอเมริกา ณ คาลิฟอร์เนีย
 

ภาพสุดท้ายของปู่_หลานในหัวโขนราชภาระที่สื่ออังกฤษตราพระอาทิตย์เชิญมานี้เต็มไปด้วยความอิหลักอิเหลื่อ 

ความรู้สึกผิดในใจของคนหนุ่มที่กำลังตัดสินใจหันหลังให้กับครอบครัว หมุนตัวทิ้งทุกอย่างทั้งสิทธิและหน้าที่ในฐานันดรกำเนิดวรรณะเพื่อก้าวออกไปสู่ห้วงรักบริสุทธิสเน่หาในแม่ร้างแม่หม้าย สร้างชีวิตใหม่ไร้ขนบมณเฑียรบาล_การบินโบยไปสู่เสรีส่งผลให้ไม่อาจหาญกล้าสบสายตาเสด็จพระอัยกาผู้ผ่านกาลเวลามาจะร่วมร้อยปี ผู้ครั้งหนึ่งเคยเปนที่พึ่งอันสนิทและชุ่มเย็น ผู้ครั้งกระโน้น, ประพฤติกลับกัน, ยอมสละชีวิตอิสระเสรีภาพก้าวเข้ารับหน้าที่พระสวามีผู้มีหน้าที่ยืนข้างหลังแต่สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงรัชทายาท, ผู้ต่อมา, ต้องแบกรับพระราชภาระล้นบ่าที่ตามมาจากเหตุจักรวรรดิอังกฤษหล่นใส่ก่อนเวลาจะคาดหมาย, ในฐานะองค์ประมุข_สมเด็จพระบรมราชินีนาถ
 

แม้ชีวิตเผชิญความสูญเสียมามากมายตั้งแต่ครั้งทรงเปนเจ้าชายฟิลิปแห่งกรีซ ต้องสูญบัลลังก์พระบิดา พระมารดาป่วยทางใจและต่อมาผนวชเปนรูปชี ทรงชีวิตประสพอุบัติเหตุบาดเจ็บหลายครั้งรอดตายจากมหาสงครามโลกในมหาสมุทร ประกอบวีรกรรมดิ่งเวหา รับความกดดันในเวลาสังคมชายเปนใหญ่แต่ตัวเองต้องรับบทบาทคนย่อมทั้งเผชิญหน้าโขลงช้างป่ามือเปล่า ถวายความปลอดภัยแด่องค์คู่สมรส เปนผู้แทนพระองค์ไปดินแดนแว่นแคว้นอาณานิคมสุดหล้าฟ้าเขียว ดยุคพระอัยกาในเวลาไม้ใกล้ฝั่งไม่อาจทนทานกับสิ่งนี้_การจากลาของพระนัดดาองค์โปรด 

โบราณว่าไว้นั้นไม่มีผิด ความรักทางลงย่อมไหลแรงกว่าความรักทางขึ้น ในนิยามความหมายว่า ปู่ย่าตายายย่อมรักใคร่ห่วงใยลูกหลาน มากกว่าลูกหลานรักใคร่ห่วงใยปู่ย่าฯ!
 

ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก ครั้งพระมารดาของสองเจ้าชายน้อยพระนัดดาสิ้นพระชนม์กระทันหันโดยอุปัทวเหตุรถยนต์เมอร์ซิเดสที่นั่งพลิกคว่ำในอุโมงค์ปารีส_อนิจจา ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เสด็จล่วงลับดับสูญ
 

ด้วยความอีหลักอีเหลื่อ_พระบิดาทรงหย่าพระมารดาแล้วมีคู่ใจคนใหม่, ด้วยความหวั่นไหวในใจเยาว์ต้องเผชิญเหตุการณ์ร้ายแรงชนิดว่า tragic_วิปโยค, ไหนจะคู่รักใหม่ของพระมารดาเปนศพไปในรถนั้นด้วย, ไหนจะบิดาของศพนั้นใส่ไคล้จาบจ้วงดยุคพระอัยกาว่าเปนผู้พลอยยินดีอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ร้ายกาจนี้, ไหนจะความเย็นชาของท่านน้า_เอิร์ลสเปนเซอร์ ซึ่งบัดนี้กลายเปนเจ้าภาพทำศพพระมารดาในฐานะผู้ชายคนเดียวของครัวบ้าน, พ่อไม่ใช่เจ้าภาพอีกต่อไปในวันที่การสมรสขาดตอน หัวใจที่ว่าแหลกสลายนั้นไม่พอ มันมีความสับสนปนประหม่าแลว้าเหว่เย็นเยือกเจืออยู่ในทุกอณูวิญญาณ


 

แต่แล้วก็เปนดยุคพระอัยกานี่แล ที่เสด็จเข้ามาเพื่อพระนัดดาย้ายที่ประทับแรมออกไปสู่ความอบอุ่นแห่งบัลมอรัล ณ ภูมิประเทศสก็อตแลนด์ ทรงใช้เวลาพาเยาวชนท่องไปในสวนป่า ให้เวลา ธรรมชาติ และ ประสพการณ์ เยียวยาพระนัดดาให้คลายโศกผ่อนทุกข์
 

และยามเมื่อโลกทั้งใบจับจ้องการพิธีพระศพ หมู่สังคมโลกกดดันสมเด็จพระอัยกีต่อท่าทีรักษาแบบธรรมเนียมคร่ำครึเจ้าชายเยาว์ทั้งสองต้องเสด็จพระดำเนินส่งพระศพมารดาออกสื่อ_สื่ออย่างชนิดที่ว่าตามเกาะเจาะจิกจนรถที่นั่งพระมารดาต้องหักหลบการติดตามจนเกิดโศกนาฏกรรมแสนพิลาปลำเค็ญนั้น
 

ก็เปนดยุคพระอัยกาองค์นี้ ที่หยิบยื่นความปกป้องและคุ้มภัยแก่ใจเยาว์ทั้งสอง
 

“ให้ปู่เดินเปนเพื่อนไหม?, ถ้าพวกหลานต้องการน่ะนะ”
 

พลันปรากฏภาพประวัติศาสตร์ ดยุคผู้ถูกกล่าวหาก้าวมั่นคงไปเคียงท่าเพื่อ ‘เปนเพื่อน’ หลานๆผู้บอบช้ำของท่าน ส่งร่างไร้วิญญาณสู่การพิธีแห่งความสงบชั่วนิรันดร์
(ต่อตอน 2)


นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 หน้า 17  ฉบับที่ 3,747 วันที่ 9 - 12 มกราคม พ.ศ. 2565