จากฐานันดรที่สี่สู่เจ้าของเหมืองหยก (14)

11 ต.ค. 2564 | 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ต.ค. 2564 | 16:17 น.

คอลัมน์ เมียงมอง เมียนมา โดยกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์

มีคนกล่าวไว้ว่า “การเริ่มต้นทำธุรกิจแม้จะยากแสนยาก แต่การตัดสินใจที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทางดำเนินธุรกิจจากเดิมนั้นยากยิ่งกว่า” สำหรับทุกๆ คนแล้ว ผมเชื่อว่ายากเย็นมากที่จะยอมรับว่า สิ่งที่ตนเองทำอยู่นั้นมันไม่ใช่ จะต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง คุณสุวรรณีเองก็เช่นเดียวกัน กว่าเธอจะมาถึงวันนี้ได้ เธอก็ได้เปลี่ยนอาชีพของเธอมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน สำหรับการเริ่มต้นซื้อ-ขายหยก ซึ่งอาจจะเป็นอาชีพที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างเป็นกอบเป็นกำนี้ เธอต้องลองผิดลองถูก อีกทั้งยังถูกมืออาชีพหน้าเก่าๆในวงการค้าหยก หลอกลวงมาแล้วหลายครั้งเช่นกัน
 

การบุกขึ้นไปบนภูเขาหินหยกที่ปะกั่น ความกล้าหาญของเธอเริ่มที่จะส่งแสงสว่างมาให้แก่ตัวเธอ เหตุที่เกิดขึ้นในวันที่เธอไปนั่งเฝ้าดูคนงานขุดหยกคนหนึ่ง และทำการตีสนิทถามโน่น นี่ นั่นกับคนงานคนนั้น ซึ่งเขามีชื่อว่า “นายอ่อง ตู่ล่า” ทำให้เธอได้รู้เรื่องราวของวิธีการหาซื้อก้อนหินหยก เธอเองหลังจากจบสิ้นวันดังกล่าว ต่อมาเธอก็ยังคงตามเฝ้าพูดคุยและดูนายอ่อง ตู่ล่า ขุดหาก้อนหินหยกทุกวัน
 

ในขณะที่เธออยู่ที่นั่น และเธอก็ได้ซื้อขนมขบเขี้ยวและหมากขึ้นไปฝากนายอ่อง ตู่ล่าทุกวัน เพื่อเป็นการผูกมิตร จนกระทั่งวันหนึ่ง หลังจากเสร็จสิ้นการขุดก้อนหินหยกสองชั่วโมงที่ทางการอนุญาต เธอกับสามี และพ่อของสามีสามคน จึงได้เดินตามนายอ่อง ตู่ล่ากลับไปที่บ้านพัก ซึ่งลักษณะของบ้านพัก เป็นเพียงแค่เพิงเล็กๆ กว้างประมาณสามเมตร ลึกแค่สองเมตร เสมือนหนึ่งเป็นที่ซุกหัวนอนของแรงงานทั่วไป ที่ปลูกเรียงรายกันอย่างไม่เป็นระเบียบ
 

เมื่อไปถึงเพิงพัก นายอ่อง ตู่ล่าก็ได้นำเอาก้อนหินหยกที่ขุดได้รวบรวมซ่อนไว้ที่เพิงพักออกมาให้กลุ่มเธอดู การต่อรองซื้อ-ขายก้อนหินหยกจึงเริ่มขึ้นที่นี่อีกครั้ง เมื่อซื้อ-ขายกันเสร็จสิ้นลง นายอ่อง ตู่ล่าก็ถามว่า ยังต้องการซื้ออีกมั้ย 

 

ถ้าต้องการเขามีเพื่อนที่อยู่ในเพิงพักใกล้ๆ กันอีกหลายคน ก็มีก้อนหินหยกที่น่าสนใจอีกมาก เธอจึงบอกว่าให้นำมาดูได้เลย นี่คือการซื้อ-ขายอีกแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นที่เพิงพักนั่นเอง
 

เมื่อเพื่อนๆ ของนายอ่อง ตู่ล่า นำเอาก้อนหินหยกมาให้ดู เธอจึงทราบว่า ก็มีพ่อค้าอีกหลากหลาย ชอบมาหาซื้อก้อนหินหยกกันที่เพิงพักคนงาน โดยเขาไม่ต้องเดินขึ้นภูเขา ที่ค่อนข้างจะเสี่ยงภัยจากดินสไลด์ และแดดที่ร้อนเผามากๆ อีกทั้งไม่ต้องไปเฝ้าที่ศาลาก็สามารถซื้อหาก้อนหินหยกได้ แต่ที่น่าเป็นกังวล ก็มีเพียงโอกาสที่จะเจอหินที่คล้ายหยกปลอมปนมาขายให้ ดังนั้นพ่อค้าที่จะไปหาซื้อก้อนหินหยกที่เพิงพัก จะต้องเป็นพ่อค้าที่มีความชำนาญและรอบรู้การดูหินอย่างเก่งกาจจริงๆ หรือไม่ก็ต้องซื้อหากับคนที่เขาเชื่อใจจริงๆเท่านั้น ซึ่งก็ยากมากที่จะเจอคนประเภทนั้น เพราะที่นั่นเสือสิงห์กระทิงแรด มาชุมนุมกันอยู่ครบครันจริงๆ 
 

ผมได้สอบถามเธอไปว่า การดูหินอย่างไรจึงจะรู้ว่าหินนั้นเป็นหินหยกที่แท้จริงละ เธอบอกว่า อย่างแรกเลยต้องทำใจว่า หากก้อนหินหยกนั้นมองด้วยตาเปล่า หรือจากการส่องไฟฉายไปเห็นเส้นสายของหยก แล้วว่าเป็นหินที่มีแสง หากราคาถูกมากจนเหลือเชื่อ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า ไม่ใช่หินหยกจริง เพราะในโลกนี้ไม่มีของดีราคาถูกแน่นอน ความโลภมักจะฆ่าคนได้เสมอ
         

ต่อมาหากเป็นก้อนหินหยก แม้จะมีแสงหลักจากส่องไฟฉายดูแล้ว  ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นโชคของเราที่เจอก้อนหินหยกของจริงเสมอ ของอย่างนี้ต้องใช้ดวงวาสนาของคนจริงๆ เพราะบางครั้งเราดูว่าเห็นแสงแล้ว แต่ถ้าผ่าก้อนหินหยกออกมา อาจจะไม่มี “ใจหยก” ก็เป็นไปได้เสมอ ดังนั้นอย่าโลภมากโดยเด็ดขาด หากสามารถขายก้อนหินหยกดิบๆได้ในราคาที่ตนเองพอใจ ก็ขายเลยไม่จำเป็นต้องลังเล เพราะโอกาสที่จะรวยด้วยการผ่าก้อนหินหยก เหมือนเป็นการเอาอนาคตไปผูกติดกับการพนัน ถ้าผ่าออกมาแล้วเจอใจหยก ก็รวยไปเลย
 

แต่ในทางกลับกัน ถ้าไม่เจอใจหยก ก้อนหินหยกนั้นก็จะกลายเป็นเศษหิน ที่ไม่มีราคาค่างวดแม้แต่แดงเดียวก็มี ดังนั้นเธอบอกว่าเธอจะไม่ค่อยอยากจะเสี่ยงในการผ่าก้อนหินหยกโดยไม่จำเป็นเลย นอกเสียจากมั่นใจจริงๆเท่านั้น
 

ผมได้ถามเธอต่อไปว่า แล้วหยกที่เธอขายละ ถ้าเธอไม่ผ่าเอง แล้วจะมีโอกาสได้มาอย่างไร เธอบอกว่า ก็มีพ่อค้าที่เขาซื้อก้อนหินหยกไปผ่าเองเยอะมาก เธอมักจะตามไปดู และไปขอซื้อในราคาที่เขามีกำไร เขาก็จะขายให้ ซึ่งในเวลาต่อมาเธอก็มีพ่อค้าประเภทนี้ไว้ในมือหลายราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มพ่อค้าที่เป็นแขกอินเดียและแขกบังกลาเทศ กลุ่มนี้ชอบเสี่ยงมาก บางคนพอเคยได้ก็จะเสมือนคนติดการพนัน วันนี้ได้พรุ่งนี้เสียเป็นเรื่องปกติของเขา แต่บางคนพอเสียแล้วจะไม่ยอมแพ้ ประสบปัญหาหมดเนื้อหมดตัวก็เคยมีให้เห็นเสมอ
 

พอเธอเล่ามาถึงตอนนี้ ผมเองก็เคยมีเพื่อนพนักงานที่ผมเคยเล่าให้ฟังมาแล้ว เขาก็เคยเป็นผู้มีอันจะกิน แต่ต่อมาก็จบสิ้นอนาคตเป็นเพราะความไม่ยอมแพ้นี่แหละ จนต้องมาช่วยผมทำงานอยู่กับผมร่วมยี่สิบกว่าปีเช่นกันครับ
 

การดูหยกสำเร็จรูปว่าเม็ดไหนเป็นหยกแท้ เม็ดไหนเป็นหินที่มีความเหมือนหยก คุณสุวรรณีก็ได้นำมาเล่าให้ผมฟังอย่างไม่ปิดบัง อาทิตย์หน้าผมจะนำมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ อ่านเพื่อความสำราญเท่านั้นนะครับ โปรดติดตามรออ่านในอาทิตย์ต่อไปนะครับ