สัญญาณดีเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ

18 ก.ย. 2564 | 06:30 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ย. 2564 | 13:16 น.
1.4 k

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ

ได้เห็นยอดตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในแต่ละวันลดลงต่อเนื่อง และคงจะได้เห็นยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงต่ำกว่า 1 หมื่นคน ในไม่ช้า ประกอบกับการเร่งฉีดวัคซีน 2 เข็มให้ได้ตามเป้าหมาย 70% ของประชากรภายในช่วงปลายปีนี้ มีทิศทางที่ดี ปัจจุบันมีการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 42 ล้านโดส แบ่งเป็นเข็มแรก เข็ม 1 ฉีดสะสมกว่า  27.89 ล้านโดส  เข็ม 2 ฉีดสะสมกว่า 13.35 ล้านโดส และเข็ม 3 สะสมกว่า 7.74 แสนโดส
 

ถือเป็นสัญญาณที่ดีกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนตุลาคมนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกมายืนยันที่จะเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่งชาติระยะที่ 2 ใน 4 จังหวัด ได้แก่ อ.บางละมุง (พัทยา)-สัตหีบ จ.ชลบุรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.แม่แตง จ. เชียงใหม่ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 หลังจากนำร่องในพื้นที่ภูเก็ตไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา และหลังจากนั้นระยะ 3 ในวันที่ 15 ตุลาคม 2564 จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ 21 จังหวัด ตามมาอีก 

ส่วนกรุงเทพมหานคร จากเดิมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้หารือกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานคร มีความเห็นร่วมกันแล้วว่าจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วมาเที่ยวได้โดยไม่กักตัว ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมนี้ เป็นต้นไป พร้อมกันในทุกเขต เพื่อความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยว 


ขณะที่คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบมาตรการดึงดูดชาวต่างชาติศักยภาพสูง ให้สามารถเข้ามาพำนักระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกวีซ่าประเภทใหม่ ไม่ต้องมีหนังสือแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบหากอยู่ในประเทศเกิน 30 วัน และการแก้ไขกฎหมายหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อดึงดูดการลงทุน เช่น กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดิน การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยหวังมามาตรการดังกล่าวนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนชาวต่างชาติที่พักอาศัยในไทยได้ 1 ล้านคน เพิ่มปริมาณเงินใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท เพิ่มการลงทุนในประเทศได้ราว 8 แสนล้านบาท เป็นต้น 
 

รวมถึงกระทรวงการคลัง ออกมายืนยันว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างหลากหลาย และจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างจัดทำรายละเอียด
 

นอกจากนี้ เครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ อย่างภาคการส่งออก ก็มีสัญญาณที่ดีสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ได้คาดการณ์การส่งออกไทยปีนี้จะขยายตัวได้ที่ 10-14% โดยยืนยันว่าการส่งออกขยายตัวที่ 10% นั้น สามารถดำเนินการได้ 100 % แน่นอน ส่วนการขยายตัว 12% มีความเป็นไปได้สูงที่ 60% และขยายตัวที่ 14% มีความมั่นใจ 30% แต่ไม่ว่าการส่งออกจะขยายตัวที่ 10% 12% หรือ 14% จะถือว่าเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี และมีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือคิดเป็นมูลค่าอย่างต่ำ 2.54 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป
 

ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมา ล้วนเป็นสัญญาณที่ดี ที่จะเป็นตัวเร่งในขับเคลื่อนภาวะเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ และส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ปกติได้โดยเร็ว ซึ่งหวังว่าจากนี้ไปจะได้เห็นยอดผู้ติดเชื้อลดลงเข้าสู่ตัวเลข 3 หลัก และมีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรทั้งหมดได้เร็ววัน เพื่อที่ประเทศจะได้กลับมาเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังบอบช้ำมานาน